ห้องที่ ๖๒ : ขุนปฏิภาณพิจิตร


          ฝ่ายกองคอยเหตุด้อมดอนดง
เหนริปูปวงคงชีพแล้ว
เหล่าพลพวกจตุรงค์เฮฮึก เหิมแฮ
ฃานโห่กระหึมแคล้วเคลื่อนเข้าพลับพลา
          สองต่างตัวสั่นเทิ้มงกงัน
หน้าซีดตกใจพลันดุ่มด้าว
ดุจใครเดจเอาฃวัญออกจาก กายนา
เรวรีบไปเฝ้าท้าวธิราชไท้ทศศีร์
            พลันถึงทูลแทตยเจ้าลงกา
ลิงมนุษยปวงโยธาที่ม้วย
กลับคืนรอดชีวายกทัพ กลับแฮ
เหิมฮึกหาญโห่ด้วยเดชก้องกุลาหล
            ทศเศียรสดับสิ้นสารยักษ
ประดุจสายอสนีจักรฟาดต้อง
ฉงนว่าพวกปรปักษไฉนรอด คืนแฮ
ตรัสสั่งให้เชิญน้องรีบขึ้นมาพลัน
            มโหทรรับถ้อยรีบจรจรัล
ถึงนิเวศกุมภกรรฐ์บ่อช้า
กราบทูลว่าทรงธรรม์ตรัสสั่ง ข้าเฮย
เชิญเสด็จเฝ้าจอมหลาเพื่อแจ้งการณรงค์
            ด้วยสารันแจงวาองค์อนุช รามเฮย
ต้องสัตรียาวุธวอดนั้น
แก้โมกขศักดิหลุดคืนชีพ ได้นา
การด่วนควรรีบซั้นเสด็จเฝ้าฟังการ
            กุมภกรรฐ์น้องท้าวยีสิบกร
ฟังมโหทรถอนจิตรช้ำ
ร้อนใจดั่งไฟฟอนเผาลวก ทรวงนา
ฤๅดั่งศรสาตรซ้ำอกท้าวแสนทวี
            ขุนมารจากแท่นแก้วครรไล
รีบสู่พระโรงไชยห่อนช้า
ถั่นถึงประนตไทธิราชเชษ ฐาเฮย
คอยสดับพจนผ่านฟ้าจกเอื้อนโอฐไฉน
            ทศภักตร์บพิตรเจ้าลงกา
เหนพระอนุชมาหมอบเฝ้า
จึ่งเอื้อนมธุรพาทีตรัส
ดูก่อนกุมภกรรฐ์เจ้าจักแก้กลไฉน
            วันวานพอยกพ้องพลไกร
บอกพี่ว่ามีไชยรบร้า
ศึกแหลกป่นบันไลยลาญหมด
มันกลับคืนชีพกล้ากลั่นห้าวเหิมทนง
            กุมภกรรฐ์ก้มเกล้ากราบทันที
ทูลแก่ทศศรีเชษฐไท้
อันหอกโมกขศักดิ์มีฤทธิรุด แรงแฮ
เคยปราบอรินได้ดุจน้ำใจถวิล
            ถูกใครไป่รอดได้ชีวัน คืนนา
น้องนึกน่าอัศจรรย์หลากแท้
ชรอยอ้ายพิเภกมันบอกเหตุ เฃานา
โอสถประกอบแก้จิงฟื้นคืนชนม์
            หาไม่ไหนมนุษย์นี้จักคืน ชีพฤๅ
คิดยิ่งคิดสุดฃืนจิตรแค้น
หนักอกพ่างเพียงปืนพิศมเสียด ทรวงนา
เจบจิตรเจบใจแข้นขัดอั้นตันทรวง
            อันมนุษยอีกทั้งหมู่วานร
น้องจักฆ่าให้มรณ์หมดนั้น
ฃอลาพระทรงศรไปร่าย เวทแฮ
ตั้งกิจพิธีกั้นสกัดน้ำเหนือเสีย
            ข้าศึกจักอดน้ำจำตาย สิ้นเอย
ด้วยเลห์กลอุบายดั่งนี้
ไป่พักพวกพลกายกอบยาก เหนื่อยนา
ฃอแต่พระอย่าชี้ช่องให้ใครยิน
            อสุรินทรปิ่นภพเจ้าจอมมาร
ฟังพระอนุชฃานพจนพร้อง
บันเทิงหฤไทยปานอมรเสพย สวรรค์แฮ
ปรบหัดถ์สำรวลก้องสนั่นทั้งวังหลวง
            สิบโอฐเรียกนั่งใกล้ชมพลาง
ยอหัดถ์ลูบปฤษฎางค์กนิฐไท้
จึ่งเอื้อนพจนทางโถมเดช น้องเอย
เออมิเสียทีได้ดุจน้ำใจเดียว
            พ่อพ่างหทเยศผู้สวามิภักดิ์ พี่เฮย
หาทั่วจบไกรจักรบ่ได้
ทรงฤทธิมหิทธิศักดิ์ใครเทียบ เสมอฤๅ
ทั้งโลกยหากยกไว้แต่เจ้าโลกา
            คาบนี้แน่เสร็จเสี้ยนศึกขจัด ขยายเฮย
ทวยราษฎร์จะโสมนัศทั่วหน้า
จักเจริญศิริสวัสดิดลศุข สราญแฮ
ด้วยเดชอนุชผล้าเหล่าเสี้ยนเศิกไกษย
            ตรัสพลางเตือนว่าเจ้าดวงใจ พี่เอย
การด่วนควรพ่อไปเร่งเร้า
อำนวยพระพรไชยเสริมส่ง ให้แฮ
สบประสงค์ดังเจ้าคิดเกื้อขจัดบร
            กุมภกรรฐนบนิ้วนอบวันทนา
รับพระพรเชษฐาใส่เกล้า
คลานคล้อยถดถอยมาโดยด่วน
จากพระโรงรีบเข้าสู่ห้องปรางมณี
            ลดองค์เหนืออาศน์แล้วภูมี
ตรัสเรียกคันธมาลีนั่งใกล้
กับอีกสี่นารีรักร่วม จิตรนา
พลางหยอกเย้ายวนให้ยั่วยิ้มแย้มสรวล
            ตรัสยุบลบอกแก่ห้านางพลัน
พี่จักลาจอมฃวัญเนตรแคล้ว
ตั้งกิจพิธีกันอุทกที่ โน้นนา
ครบเจดราตรีแล้วกลับยั้งยังสมร
            จงเกบดอกไม้ทุกเวลา
ไปส่งแก่เชษฐาอย่าเว้น
แม้ใครจะสงกาถามอย่า แพร่งนอ
เล็ดลอดจรดอดเร้นซ่อนเมื้อจงดี
            ตรัสพลางเสด็จเข้าที่สรง สนานเอย
เสร็จสอดเครื่องอลงกฎแพร้ว
กรจับกระบององอาจเหาะ รเห็จแฮ
ถึงฝั่งคงคาแล้วเพ่งพื้นภูมิสฐาน
            เหนต้นกร่างใหญ่ล้ำพฤกษา
ใบกิ่งบังสุริยาร่มชื้อ
มีแท่นแผ่นเศลาเลียนสอาด
ขึ้นนั่งหลับเนตรรื้อร่ำอ้างอ่านมนต์
            บัดเดี๋ยวกายเติบแม้นเสมอองค์ พรหมเอย
อสุรย่างเยื้องลงสู่น้ำ
ทอดกายอยู่ในคงคาสาธ ยายแฮ
จมดิ่งจดดินล้ำเท่ห์พ้นบนเหน
            น้ำท้นวนพลุ่งเท้อทวนไป มาเอย
นูนพลั่งดังซ่าไพรป่วนคฤ้น
ด้วยฤทธิพิธีไกรเกรียงเดช ราพนา
ชลน่าพลับพลาตื้นขอดแห้งเหนทราย

จบห้องที่ ๖๒

  เนื้อความกล่าวถึงกองคอยเหตุของกรุงลงกาเห็นพระลักษณ์และทหารวานรฟื้นคืนชีพและยกทัพกลับ จึงรีบไปทูลทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์ตกใจรีบให้ไปตามกุมภกรรณและบอกให้แก้กลศึก กุมภกรรณจึงทูลขอไปทำพิธีทดน้ำมิให้ไหลไปทางทัพพระรามเพื่อให้อดน้ำตายทั้งกองทัพ และทูลขอทศกัณฐ์อย่าชี้ช่องให้ใครรู้อุบายนี้ หลังจากนั้นก็สั่งนางคันธมาลีพร้อมนางกำนัลสี่ตนไปเก็บดอกไม้มาส่งที่พิธีตลอดทั้ง ๗ วัน และกำชับอย่าแพร่งพรายให้ใครรู้ เมื่อกุมภกรรณไปถึงริมฝั่งน้ำร่ายมนตร์ให้กายใหญ่โต แล้วดำลงทอดตัวจมขวางอยู่ในน้ำ ร่ายเวทจนกระทั่งน้ำที่หน้าพลับพลาพระรามแห้งขอด

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เชิญเสด็จเฝ้าจอมหล้า”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ด้วยสารันแจ้งว่า”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “กุมภกรรฐ์น้องท้าวยี่”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “จักเอื้อนโอฐไฉน”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “จิ่งฟื้นคืนชนม์”